วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ขนมสาลี่







ส่วนผสม





1. แป้งเค้ก 1 1/2 ถ้วยตวง



2. ไข่ไก่ 1 ช้อนโต๊ะ



3. น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วยตวง



4. น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง



5. น้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา



6. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา



วิธีทำ

1.
ตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงให้ไข่ไก่เข้ากัน ประมาณ 10-15 นาที

2.
ค่อยๆใส่น้ำตาลลงในไข่ทีละน้อย(ขณะตีไข่) ใส่จนน้ำตาลหมดใส่เกลือป่นตีต่อไปเรื่อยๆ จนไข่ฟู เป็นสีครีมขาว

3.
ใส่มะนาว กลิ่นวนิลา ตีต่อไปจนไข่ตั้งฟูเต็มที่ ค่อยๆใส่แป้งอย่างเบามือลงในไข่ไก่ที่ตีขึ้นแล้วสลับกับน้ำลอยดอกมะลิ เคล้าเบา ๆ ให้เข้ากันแล้วเทลงในถาดขนมที่นึ่งไว้จนร้อนจัดแล้วทันที นึ่งขนมด้วยไฟกลางประมาณ 20-30 นาที

4.
ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น จิ้มลงตรงกลางขนม แล้วดูที่ไม้ถ้ามีเศษขนมติดอยู่ให้นึ่งต่อไปจนขนมแห้งสุกดีแล้ว เนื้อขนมจะขึ้นฟูและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ขนมโพรงแสม


ขนมชนิดนี้ใช้ในพิธีแต่งงาน โดยแทนเสาบ้านเสาเรือน เพื่อให้คู่บ่าวสาวอยู่กันยั่งย ืนและร่ำรวย ลักษณะคล้ายๆขนมทองม้วน แต่ขนมชนิดนี้จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่มีน้ำตาลเคลือบพันร้อยอยู่ที่ตัวขนม เมื่อตัวขนมได้ถูกบดขยี้กับฟันและลิ้นที่สัมผัสรส จะให้ความรู้สึกกรุบกรอบน่ากัดกิน ผสมกับความหวานของน้ำตาลที่เคลือบขนมอย่างลงตัวไม่ที่ไม่หวานมากนัก ก็ยิ่งทำให้ขนขนมชนิดนี้ใช้ในพิธีแต่งงาน โดยแทนเสาบ้านเสาเรือน เพื่อให้คู่บ่าวสาวอยู่กันยั่งย ืนและร่ำรวย ลักษณะคล้ายๆขนมทองม้วน แต่ขนมชนิดนี้จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่มีน้ำตาลเคลือบพันร้อยอยู่ที่ตัวขนม เมื่อตัวขนมได้ถูกบดขยี้กับฟันและลิ้นที่สัมผัสรส จะให้ความรู้สึกกรุบกรอบน่ากัดกิน ผสมกับความหวานของน้ำตาลที่เคลือบขนมอย่างลงตัวไม่ที่ไม่หวานมากนัก ก็ยิ่งทำให้ขนมชนิดนี้เหมาะสำหรับการกินเล่น กับน้ำชาตอนบ่ายมชนิดนี้เหมาะสำหรับการกินเล่น กับน้ำชาตอนบ่าย

สาคูเปียกถั่วดำ


ส่วนผสม (สำหรับ 5-6 คนรับประทาน)
สาคูเม็ดเล็ก
1 ถ้วย
น้ำ
2 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้น
1 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้นสำหรับตกแต่ง
ถั่วดำแกงบวด
ถั่วดำต้มสุก
2 ถ้วย
กะทิ
2 ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลมะพร้าว)
3/4 ถ้วย
หัวกะทิ
หัวกะทิ
3/4 ถ้วย
เกลือสมุทร
1/2 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า
1/2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างสาคู เทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่สาคู ต้มพอสุกเป็นตากบ (ยังมีไตแป้งขาวขุ่นอยู่ด้านใน)3. ใส่น้ำตาล คนให้ทั่วและน้ำตาลละลาย ต้มต่อจนเม็ดสาคูใส ปิดไฟ เทใส่ชาม ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน คนพอทั่ว4. ทำถั่วแดงแกงบวดโดยใส่ถั่วดำต้มสุก กะทิ เกลือและน้ำตาลปี๊บ ลงในหม้ออีกใบ คนให้ทั่ว ยกขึ้นตั้งไฟกลาง พอเดือดทั่วยกลง5. ทำหัวกะทิโดยผสมหัวกะทิกับเกลือลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนพอเดือดจึงละลายแป้งข้าวเจากับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ เทใส่ในหม้อ คนให้ทั่ว เคี่ยวพอกะทิมีลักษณะข้น ปิดไฟ เทใส่ถ้วย พักไว้6. ตักสาคูใส่แก้ว ตักถั่วดำแกงบวดใส่ราดด้วยกะทิ ตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน พร้อมเสิร์ฟ

สาคูเปียกถั่วดำ

ส่วนผสม (สำหรับ 5-6 คนรับประทาน)
สาคูเม็ดเล็ก
1 ถ้วย
น้ำ
2 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้น
1 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้นสำหรับตกแต่ง
ถั่วดำแกงบวด
ถั่วดำต้มสุก
2 ถ้วย
กะทิ
2 ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลมะพร้าว)
3/4 ถ้วย
หัวกะทิ
หัวกะทิ
3/4 ถ้วย
เกลือสมุทร
1/2 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า
1/2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างสาคู เทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่สาคู ต้มพอสุกเป็นตากบ (ยังมีไตแป้งขาวขุ่นอยู่ด้านใน)3. ใส่น้ำตาล คนให้ทั่วและน้ำตาลละลาย ต้มต่อจนเม็ดสาคูใส ปิดไฟ เทใส่ชาม ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน คนพอทั่ว4. ทำถั่วแดงแกงบวดโดยใส่ถั่วดำต้มสุก กะทิ เกลือและน้ำตาลปี๊บ ลงในหม้ออีกใบ คนให้ทั่ว ยกขึ้นตั้งไฟกลาง พอเดือดทั่วยกลง5. ทำหัวกะทิโดยผสมหัวกะทิกับเกลือลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนพอเดือดจึงละลายแป้งข้าวเจากับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ เทใส่ในหม้อ คนให้ทั่ว เคี่ยวพอกะทิมีลักษณะข้น ปิดไฟ เทใส่ถ้วย พักไว้6. ตักสาคูใส่แก้ว ตักถั่วดำแกงบวดใส่ราดด้วยกะทิ ตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน พร้อม

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

บัวลอยไข่หวาน


ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว
50 กรัม
น้ำเปล่า (สำหรับผสมตัวแป้ง)
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำคั้นใบเตย
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
250 กรัม
น้ำเปล่า
1 ถ้วยตวง
หัวกะทิคั้นข้นๆ
1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น
1/4 ถ้วยตวง
ไข่ไก่
3 ฟองวิธีทำ1. ผสมน้ำเปล่ากับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่กระทะตั้งไฟพอเดือด จนส่วนผสมเป็นน้ำเชื่อมข้นๆ เบาไฟอ่อนๆ รอจนน้ำเชื่อมเป็นยางมะตูมอ่อนๆ เบาไฟอ่อน 2. ผสมแป้งข้าวเหนีว 25 กรัมกับน้ำเปล่า และผสมแป้งที่เหลือกับน้ำคั้นใบเตย นวดจนเนียน ปั้นเป็นเม็ดกลมเล็ก ใส่ก้อนแป้งลงต้มจนแป้งสุกใสและลอยขึ้น ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในน้ำเชื่อม จนไข่สุกลอยขึ้น3. ตั้งกะทิให้เดือด ใส่เกลือป่นคนจนละลาย4. ตักบัวลอยใส่ถ้วย ตักน้ำกะทิราดข้างบน จัดเสิร์ฟถ้าอยากมีลูกบัวลอยสีอื่นๆก็ใช้น้ำคั้นจากผัก-ผลไม้ที่มีสีสันก็ได้นะคะ

สาคูเปียกลูกแปะก้วย


ส่วนผสมสาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวงลูกแปะก๊วยต้มพอสุก 1/2 ถ้วยตวงน้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวงน้ำเปล่า 3 ถ้วยตวงวิธีทำ1. นำสาคูไปเลือกเอาผงออก สงให้สะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้2. ต้มแปะก๊วยให้พอสุกนิ่ม พักไว้3. ผสมน้ำตาลทราย กับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ตั้งไฟให้เดือด ยกลงกรอง ยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวสักครู่ ใส่แปะก๊วย พอเดือดสักครู่ ยกลง4. ต้มน้ำเปล่าที่เหลืออีก 2 ถ้วยตวง จนเดือด เทสาคูลง คนให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ จนสาคูสุกและใส5. ใส่แปะก๊วยที่เชื่อมไว้ ลงไปพร้อมน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน6. ถ้าไม่หวานพอให้ใช้น้ำตาล ทำเป็นน้ำเชื่อมเติม ถ้าสาคูข้นขึ้น ให้เติมน้ำร้อนลงไป เพราะเวลาที่สาคูเย็น จะแห้งและข้นขึ้น

ผลไม้ลอยแก้ว


1. ลองหลับตานึกถึงภาพผลไม้หลากสีหลายรส ทั้งเปรี้ยวจี๊ดหวานจัด มีกลิ่นหอม หั่นชิ้นสวยๆมาวางจัดใส่จานแก้วใสๆ เติมน้ำแข็งบดลงไปอีกสักนิด พอน้ำแข็งเริ่มละลายผสมกับน้ำเชื่อมกลิ่นส้ม คุณว่าอร่อยขนาดไหน ว่าแล้วก็รวบรวมผลไม้ในใจคุณก่อนเลย จากนั้นเคี่ยวน้ำเชื่อมด้วยน้ำตาลทรายขาว น้ำส้มซันคิสต์ (จากผลส้มสดสัก 2 ลูก) ขูดเอาผิวลงผสมด้วยเล็กน้อยพอแค่ได้กลิ่น มากเกินไปจะขม2. ปอกหั่นตัดแต่งผลไม้ให้สวย แต่อย่าลืมว่าผลไม้ที่จะนำมาเชื่อมลอยแก้วนั้นไม่ควรสุกมากเพราะเนื้อจะเละเวลาเชื่อม เตรียมผลไม้ที่สุกง่ายไว้หลังสุด นำหม้อน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ขึ้นตั้งบนเตา ใช้ความร้อนปานกลาง พอน้ำเชื่อมเริ่มเดือดปุด เติมน้ำส้มสดพร้อมผิวส้มและเกลือป่น ชิมรสดูหวานมากไปให้เติมน้ำมะนาวได้เล็กน้อย3. เมื่อน้ำเชื่อมเดือดดีแล้วค่อยๆใส่ผลไม้ที่เตรียมไว้ลงเชื่อมทีละชนิด แค่ผลไม้สุกเป็นพอ ปิดไฟ ฉีกใบสะระแหน่โรยใส่ พักให้เย็น ระหว่างพักจนความร้อนค่อยๆเย็นลงนั้น ผลไม้ที่เชื่อมจะยังสุกต่อไป ตอนเชื่อมจึงต้องระวังอย่าให้ผลไม้สุกมากไปเพราะเมื่อเนื้อผลไม้เย็นก็จะเละเทะไม่น่าดู ไม่น่าทาน จากนั้นตักใส่จาน โรยน้ำแข็งบด พร้อมเสิร์ฟได้เลย